ผลจากการใช้ฮอร์โมนไข่ทำเอง |
ฮอร์โมนไข่
สูตรไทย วัสดุส่วนผสมและวิธีทำ :
บดไข่พร้อมทั้งเปลือกด้วยเครื่องโมลิเน็กซ์ให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะ ละเอียดได้ เติมกากน้ำตาล แป้งข้าวหมาก และยาคูลท์ แล้วบดซ้ำเพื่อให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี บรรจุในภาชนะพลาสติกปิดฝาพอหลวม เก็บในร่ม อุณหภูมิห้อง คนด้วยมือวันละ 1-2 ครั้งหมักทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน ได้ "หัวเชื้อฮอร์โมนไข่" พร้อมใช้ วิธีใช้และอัตราใช้ : ใช้ "หัวเชื้อ 20-30 ซีซี./น้ำ 20 ล." ฉีดพ่นทางใบให้เปียกโชกทั้งใต้ใบบนใบลงถึงพื้น ช่วงเช้าแดดจัด ทุก 5-7 วัน พืชเป้าหมาย : - ไม้ประดับประเภทดอก จะออกดอกดี ไม้ประดับประเภทใบ จะได้ใบสีจัดขึ้น - นาข้าวให้ช่วงก่อนออกรวง จะช่วยให้ออกรวงดี - ไม้ผล ใช้เพื่อสะสมสารอาหารกลุ่ม ซี. หรือใช้สลับกับสูตรเปิดตาดอกปกติ ก็จะช่วยให้ออกดอกดีขึ้น สูตรไต้หวัน วัสดุส่วนผสมและวิธีทำ : ขั้นตอนที่ 1
วิธีทำ : ขั้นตอนที่ 1 บดไข่พร้อมเปลือกด้วยเครื่องโมลิเนกซ์ให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะละเอียดได้ เติมส่วนผสมอื่นๆ ลงไปจนครบ บดซ้ำอีกครั้งเพื่อให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้าเป็นเนื้อเดียวกันดี บรรจุภาชนะพลาสติก เติมออกซิเจนด้วยเครื่องปั๊มลมปลาตู้ ตลอด 24 ชม. ติดต่อกัน 7 วัน (อากาศปกติ) หรือเติมออกซิเจน ติดต่อกัน 10 วัน (อากาศหนาว) ขั้นตอนที่ 2 หมักด้วยวิธีเติมออกซิเจนครบกำหนดแล้ว เติม น้ำมะพร้าว 10 ล. แล้วเติมออกซิเจนตลอด 24 ชม.ต่อไปอีก 7 วัน (อากาศปกติ)หรือ 10 วัน (อากาศหนาว) ขั้นตอนที่ 3 หมักด้วยน้ำมะพร้าวพร้อมกับเติมออกซิเจนครบกำหนดแล้วน้ำปั๊มลมออก ทิ้งไว้ 7-10 วัน เพื่อให้กากนอนก้น ขั้นตอนที่ 4 เมื่อกากนอนก้นดีแล้ว กรองเอาเฉพาะน้ำใสออกมาแล้วเติม..... - สาหร่ายทะเล 250 กรัม - ธาตุหลักสูตรตามชนิดพืช 250 กรัม - ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี. - แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี. คนเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกันดี ได้ "ฮอร์โมนไข่ สูตรเข้มข้น" พร้อมใช้ อัตราใช้และวิธีใช้ : ใช้ "ฮอร์โมนไข่ 20-30 ซีซี./น้ำ 20 ล." ฉีดพ่นทางใบให้เปียกโชกทั้งใต้ใบบนใบลงถึงพื้นโคนต้น ช่วงเช้าแดดจัด ทุก 5-7 วัน พืชเป้าหมาย : - ไม้ดอกช่วยให้ออกดอกดี ไม้ใบช่วยให้ใบสีจัดขึ้น - ผักสวนครัวกินใบ ช่วยให้ต้นสมบูรณ์ แข็งแรง กลิ่นรสดี น้ำหนักดี - ผักสวนครัวกินผล ช่วยให้ออกดอกดี ผลดก กลิ่นรสดี น้ำหนักดี - นาข้าว ให้ช่วงก่อนออกรวงจะช่วยให้ออกรวงดี - ไม้ผลยืนต้นประเภททะวายหรือติดผลง่าย (พันธุ์เบา) จะออกดอกติดผลตลอดปีแบบไม่มีรุ่น.....ในไม้ผลประเภทออกดอกติดผลปีละรุ่น (พันธุ์หนัก)เมื่อใช้สลับกับสูตรเปิดตาดอกปกติ จะช่วยให้ออกดอกดี ฮอร์โมนไข่อินทรีย์ หลัการและเหตุผล วัสดุส่วนผสม อัตราใช้และวิธีใช้ คุณค่า 'ฮอร์โมนไข่' เร่งพืชออกดอก หนึ่งทางเลือกลดปัญหาใช้สารเคมี เมื่อ เอ่ยถึงคุณค่าของ “ไข่” นอกจากจะเป็นอาหารโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของมนุษย์แล้วไข่ยังมี ประโยชน์ต่อการปลูกพืชอีกด้วยโดยเฉพาะการผลิตพืชผักและไม้ผลนอกฤดูซึ่ง เกษตรกรสามารถใช้ไข่เป็นตัวช่วยในระบบการผลิตได้โดยสำนักวิจัยและพัฒนาการ เกษตรเขตที่5(สวพ.5)กรมวิชาการเกษตรได้พัฒนาและคิดค้นสูตร “ฮอร์โมนไข่” ขึ้นมาเพื่อใช้เร่งการออกดอกของพืชนับเป็นทางเลือกใหม่ของเกษตรกรที่สามารถ ช่วยลดต้นทุนการผลิตลงได้ค่อนข้างมากอีกทั้งยังช่วยลดปัญหาสารเคมีตกค้างใน สินค้าเกษตรด้านพืชและไม่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมด้วย นายอัครินทร์ท้วมขำนักวิชาการเกษตร 8 ว. สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 จ.ชัยนาท กล่าวว่าการปลูกพืชแล้วพืชไม่ออกดอกหรือออกดอกน้อยถือเป็นปัญหาสำคัญของ เกษตรกร เพราะถ้าพืชออกดอกน้อยผลผลิตก็จะน้อยตามไปด้วย โดยเฉพาะช่วงต้นฤดูฝนไม้ผลส่วนใหญ่มักแตกใบอ่อนแต่ไม่ค่อยจะติดดอกออกผลให้ เกษตรกร ทั้งนี้เนื่องจากน้ำฝนนำธาตุไนโตรเจน ในรูปของกรดไนตริก กรดไนไตร อันเกิดจากฟ้าแลบบนท้องฟ้ามาสู่พื้นโลกอย่างน้อย 10 ล้านตันต่อปี และน้ำฝนยังทำให้ดินชุ่มชื้นเหมาะแก่การเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ช่วย ตรึงก๊าชไนโตรเจน เพิ่มเติมให้แก่ดินอีกประมาณ 90 ล้านตันต่อปี นอกจากนี้ ท้องฟ้าในช่วงฤดูฝนจะมีแสงสว่างน้อยทำให้อัตราการสังเคราะห์แสงของพืชลดลง ยิ่งทำให้คาร์โบไฮเดรตที่สะสมอยู่ในเนื้อเยื่อของพืช มีปริมาณลดลงเมื่อเทียบกับธาตุไนโตรเจน ซึ่งรับเพิ่มเติมเข้ามาเรื่อยๆ อัตราระหว่าง คาร์โบไฮเดรต/ไนโตรเจน หรือ ซีเอ็น เรโช(C/N Ratio) มีค่าต่ำหรือแคบ เนื้อเยื่อพืชก็จะพัฒนาไปเป็นใบและก้านกิ่ง ส่งผลให้ต้นไม้แตกใบอ่อนค่อนข้างมากในฤดูฝน ปัจจุบันผู้ผลิตผลไม้นอกฤดู เช่นทุเรียนและมะม่วง นิยมใช้สารเคมี คือ สารพาโคลบริวทราโซล ช่วยเร่งการออกดอกและติดผลของพืช บังคับให้มะม่วงหรือทุเรียนออกดอกนอกฤดูกาล นอกจากนั้นชาวสวนลำไยยังมีการใช้สารโพแทสเซียมคลอเรต ในการกระตุ้นและเร่งการออกดอกด้วย มาถึงตอนนี้เกษตรกรไม่ต้องราดสารเร่งให้ต้นมะม่วงหรือทุเรียนก็ออกดอกได้ โดยหันมาใช้ “ฮอร์โมนไข่” เร่งการออกดอกแทน สูตรฮอร์โมนไข่เร่งการออกดอกของพืชมีดังนี้ คือ 1.ไข่ไก่สดทั้งเปลือกหรือไข่เป็ดไข่นกกระทา หรือไข่หอยเชอรี่จำนวน 5 กิโลกรัม 2.กากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดง5กิโลกรัม 3.ลูกแป้งข้าวหมาก1ก้อน 4.นมเปรี้ยว 1 ขวด (กล่อง) หรือใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์ที่ผลิตจากเปลือกสับปะรด 200 ซีซี การทำฮอร์โมนไข่ทำได้ง่ายๆ โดยนำไข่ไก่ทั้งฟองมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่น ถ้าไม่มีเครื่องปั่นให้ตอกไข่ขาวไข่แดงออกจากเปลือกใส่ภาชนะ แล้วใช้ไม้ตีไข่ขาวไข่แดงให้เข้ากัน นำเปลือกไข่ใส่ครกตำให้ละเอียดจากนั้นตักใส่ลงไปในภาชนะที่มีไข่ขาวไข่แดงปน กันอยู่ เพื่อเพิ่มธาตุแคลเซียม(Ca)จากเปลือกไข่ แล้วนำกากน้ำตาลมาผสมนำผงแป้งข้าวหมากโปรยลงไป และใช้นมเปรี้ยวหรือหัวเชื้อจุลินทรีย์ หรือกระเพาะหมู ซึ่งจะมีจุลินทรีย์มหัศจรรย์ที่ชื่อว่า Lactobacillus sp. ผสมใส่ลงไป แล้วคนคลุกให้เข้ากันนำไปบรรจุในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด เช่น ถังพลาสติกโดยให้มีช่องว่างอากาศประมาณ 10% ของภาชนะ เพื่อให้จุลินทรีย์ที่ต้องการออกซิเจนเจริญเติบโตไปด้วย ทิ้งไว้ในที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี อย่าให้ถูกแสงแดดประมาณ 7 วัน ก็สามารถนำไปใช้ได้ซึ่งมีต้นทุนการผลิตเพียงลิตรละ 25-30 บาทเท่านั้น สำหรับการใช้ฮอร์โมนไข่เร่งการออกดอกของพืช ให้ใช้ในอัตราส่วน 2-3 ช้อนกาแฟ(5-10 ซีซี.)/น้ำ 20 ลิตรฉีดพ่นในช่วงเช้าหรือช่วงเย็น 7-10 วัน/ครั้ง กรณีที่ใช้ในไม้ผลไม่ว่าจะเป็นการผลิตในฤดูกาลหรือนอกฤดูกาล เกษตรกรต้องบำรุงต้นพืชให้สมบูรณ์ที่สุดก่อนแล้วค่อยเร่งการออกดอกด้วย ฮอร์โมนไข่ โดยเริ่มฉีดพ่นตั้งแต่ติดใบอ่อนรุ่นที่ 3 ประมาณ 30-45 วัน ไม้ผลจะติดดอก 50-80% ของทรงพุ่ม ต้องหยุดฉีดพ่นฮอร์โมนไข่ทันที ถ้าพ่นต่อไปจะทำให้ดอกร่วง เนื่องจากฮอร์โมนไข่สูตรนี้มีความเข้มข้นและความเค็มสูง หากต้องการให้ดอกออกนอกฤดู ต้องให้มีช่วงฝนทิ้งช่วงหรือทิ้งช่วงการให้น้ำ 14-21 วัน/ครั้ง แล้วฉีดพ่นด้วยฮอร์โมนไข่ 7-10 วัน/ครั้ง ไม้ผลก็จะออกดอก จากนั้นฉีดพ่นด้วยน้ำหมักชีวภาพสูตรฮอร์โมนผลไม้ต่อไปอีก7-10 วัน/ครั้ง เพื่อบำรุงผลผลิตให้สมบูรณ์ ส่วนการใช้ใน ข้าว พืชไร่ พืชผัก และไม้ดอกไม้ประดับ ควรฉีดพ่นตั้งแต่พืชตั้งตัวได้จนถึงออกดอกเกิน 50% จึงหยุดพ่น และที่สำคัญไม่ควรใช้ฮอร์โมนไข่เร่งดอกในพืชผักกินใบ เช่น คะน้า ผักกาดขาว ผักกาดหอม เพราะพืชผักเหล่านี้จะออกดอก ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพต่ำและขายไม่ได้ราคา |