วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ทำฮอร์โมนเปิดตาดอกต้นไม้ใช้เอง

ผลจากการใช้ฮอร์โมนไข่ทำเอง
ผมขอแน่นำตัวผมก่อนคับ ผมชัยหัวเกษตร ผมเป็นคนชอบต้นไม้อยากให้ต้นไม้งาม ออกลูกดก ดอกเยอะ ผมได้ศึกษาวิธีลดต้นทุนการทำเกษตร แบบลดต้นทุนที่ไม่เกิดประโยชน์กับพวกเราชาวสวน ชาวนา ชาวไร่ จนได้สูตรเปิดตาดอกต้นไม้ที่ได้ผลเกินคาดและมีอยู่ในครัวเรือนเรานั้นเอง มันคือฮอร์โมนไข่
 


ฮอร์โมนไข่
    

                                                     

          สูตรไทย

               วัสดุส่วนผสมและวิธีทำ :
         ไข่สดพร้อมเปลือก      
5         กก. 
         กากน้ำตาล 5 ล.
         แป้งข้าวหมาก 2 ก้อน
         ยาคูลท์ 1 ขวด


         บดไข่พร้อมทั้งเปลือกด้วยเครื่องโมลิเน็กซ์ให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะ ละเอียดได้  เติมกากน้ำตาล  แป้งข้าวหมาก  และยาคูลท์  แล้วบดซ้ำเพื่อให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี บรรจุในภาชนะพลาสติกปิดฝาพอหลวม  เก็บในร่ม  อุณหภูมิห้อง  คนด้วยมือวันละ 1-2 ครั้งหมักทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน  ได้  "หัวเชื้อฮอร์โมนไข่" พร้อมใช้

           วิธีใช้และอัตราใช้ :
         ใช้   "หัวเชื้อ 20-30 ซีซี./น้ำ 20 ล."   ฉีดพ่นทางใบให้เปียกโชกทั้งใต้ใบบนใบลงถึงพื้น  ช่วงเช้าแดดจัด  ทุก 5-7 วัน

            พืชเป้าหมาย :
       - ไม้ประดับประเภทดอก จะออกดอกดี  ไม้ประดับประเภทใบ  จะได้ใบสีจัดขึ้น
       - นาข้าวให้ช่วงก่อนออกรวง  จะช่วยให้ออกรวงดี
       - ไม้ผล  ใช้เพื่อสะสมสารอาหารกลุ่ม ซี.  หรือใช้สลับกับสูตรเปิดตาดอกปกติ  ก็จะช่วยให้ออกดอกดีขึ้น





 
                  สูตรไต้หวัน

                   วัสดุส่วนผสมและวิธีทำ :
                ขั้นตอนที่ 1

               ไข่สดพร้อมเปลือก        5          ฟอง 
         กลูโคสน้ำ 100  ซีซี.
         นมสด  ล.
         แป้งข้าวหมาก ก้อน 
         ยีสต์ทำขนมปัง 100  กรัม 
         น้ำส้มสายชู 100  ซีซี. 

  
 







 
         วิธีทำ :
          ขั้นตอนที่ 1
  
             บดไข่พร้อมเปลือกด้วยเครื่องโมลิเนกซ์ให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะละเอียดได้  เติมส่วนผสมอื่นๆ ลงไปจนครบ  บดซ้ำอีกครั้งเพื่อให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้าเป็นเนื้อเดียวกันดี
                บรรจุภาชนะพลาสติก  เติมออกซิเจนด้วยเครื่องปั๊มลมปลาตู้ ตลอด 24 ชม. ติดต่อกัน 7 วัน (อากาศปกติ) หรือเติมออกซิเจน ติดต่อกัน 10 วัน (อากาศหนาว)

                  ขั้นตอนที่ 2
                 หมักด้วยวิธีเติมออกซิเจนครบกำหนดแล้ว  เติม  น้ำมะพร้าว  10 ล.  แล้วเติมออกซิเจนตลอด 24 ชม.ต่อไปอีก 7 วัน (อากาศปกติ)หรือ 10 วัน (อากาศหนาว)

                    ขั้นตอนที่ 3
                 หมักด้วยน้ำมะพร้าวพร้อมกับเติมออกซิเจนครบกำหนดแล้วน้ำปั๊มลมออก  ทิ้งไว้  7-10  วัน  เพื่อให้กากนอนก้น

                    ขั้นตอนที่ 4
                เมื่อกากนอนก้นดีแล้ว  กรองเอาเฉพาะน้ำใสออกมาแล้วเติม.....

                  - สาหร่ายทะเล                 250          กรัม
                  - ธาตุหลักสูตรตามชนิดพืช    250          กรัม
                  - ธาตุรอง/ธาตุเสริม           100          ซีซี.
                  - แคลเซียม โบรอน            100          ซีซี.

                คนเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกันดี  ได้  "ฮอร์โมนไข่ สูตรเข้มข้น"   พร้อมใช้

                   อัตราใช้และวิธีใช้ :
                ใช้  "ฮอร์โมนไข่ 20-30 ซีซี./น้ำ 20 ล."   ฉีดพ่นทางใบให้เปียกโชกทั้งใต้ใบบนใบลงถึงพื้นโคนต้น  ช่วงเช้าแดดจัด  ทุก 5-7 วัน

           พืชเป้าหมาย :
      - ไม้ดอกช่วยให้ออกดอกดี  ไม้ใบช่วยให้ใบสีจัดขึ้น
      - ผักสวนครัวกินใบ  ช่วยให้ต้นสมบูรณ์ แข็งแรง  กลิ่นรสดี  น้ำหนักดี
      - ผักสวนครัวกินผล  ช่วยให้ออกดอกดี  ผลดก  กลิ่นรสดี  น้ำหนักดี
      - นาข้าว  ให้ช่วงก่อนออกรวงจะช่วยให้ออกรวงดี
      - ไม้ผลยืนต้นประเภททะวายหรือติดผลง่าย (พันธุ์เบา) จะออกดอกติดผลตลอดปีแบบไม่มีรุ่น.....ในไม้ผลประเภทออกดอกติดผลปีละรุ่น (พันธุ์หนัก)เมื่อใช้สลับกับสูตรเปิดตาดอกปกติ  จะช่วยให้ออกดอกดี




ฮอร์โมนไข่อินทรีย์
หลัการและเหตุผล

วัสดุส่วนผสม

อัตราใช้และวิธีใช้








คุณค่า 'ฮอร์โมนไข่' เร่งพืชออกดอก
หนึ่งทางเลือกลดปัญหาใช้สารเคมี


เมื่อ เอ่ยถึงคุณค่าของ “ไข่” นอกจากจะเป็นอาหารโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของมนุษย์แล้วไข่ยังมี ประโยชน์ต่อการปลูกพืชอีกด้วยโดยเฉพาะการผลิตพืชผักและไม้ผลนอกฤดูซึ่ง เกษตรกรสามารถใช้ไข่เป็นตัวช่วยในระบบการผลิตได้โดยสำนักวิจัยและพัฒนาการ เกษตรเขตที่5(สวพ.5)กรมวิชาการเกษตรได้พัฒนาและคิดค้นสูตร “ฮอร์โมนไข่” ขึ้นมาเพื่อใช้เร่งการออกดอกของพืชนับเป็นทางเลือกใหม่ของเกษตรกรที่สามารถ ช่วยลดต้นทุนการผลิตลงได้ค่อนข้างมากอีกทั้งยังช่วยลดปัญหาสารเคมีตกค้างใน สินค้าเกษตรด้านพืชและไม่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมด้วย

นายอัครินทร์ท้วมขำนักวิชาการเกษตร 8 ว. สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 จ.ชัยนาท  กล่าวว่าการปลูกพืชแล้วพืชไม่ออกดอกหรือออกดอกน้อยถือเป็นปัญหาสำคัญของ เกษตรกร  เพราะถ้าพืชออกดอกน้อยผลผลิตก็จะน้อยตามไปด้วย  โดยเฉพาะช่วงต้นฤดูฝนไม้ผลส่วนใหญ่มักแตกใบอ่อนแต่ไม่ค่อยจะติดดอกออกผลให้ เกษตรกร 

ทั้งนี้เนื่องจากน้ำฝนนำธาตุไนโตรเจน ในรูปของกรดไนตริก กรดไนไตร  อันเกิดจากฟ้าแลบบนท้องฟ้ามาสู่พื้นโลกอย่างน้อย 10 ล้านตันต่อปี 

และน้ำฝนยังทำให้ดินชุ่มชื้นเหมาะแก่การเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ช่วย ตรึงก๊าชไนโตรเจน  เพิ่มเติมให้แก่ดินอีกประมาณ 90 ล้านตันต่อปี

นอกจากนี้  ท้องฟ้าในช่วงฤดูฝนจะมีแสงสว่างน้อยทำให้อัตราการสังเคราะห์แสงของพืชลดลง  ยิ่งทำให้คาร์โบไฮเดรตที่สะสมอยู่ในเนื้อเยื่อของพืช  มีปริมาณลดลงเมื่อเทียบกับธาตุไนโตรเจน  ซึ่งรับเพิ่มเติมเข้ามาเรื่อยๆ อัตราระหว่าง คาร์โบไฮเดรต/ไนโตรเจน  หรือ  ซีเอ็น  เรโช(C/N Ratio) มีค่าต่ำหรือแคบ  เนื้อเยื่อพืชก็จะพัฒนาไปเป็นใบและก้านกิ่ง  ส่งผลให้ต้นไม้แตกใบอ่อนค่อนข้างมากในฤดูฝน  ปัจจุบันผู้ผลิตผลไม้นอกฤดู เช่นทุเรียนและมะม่วง  นิยมใช้สารเคมี คือ  สารพาโคลบริวทราโซล  ช่วยเร่งการออกดอกและติดผลของพืช  บังคับให้มะม่วงหรือทุเรียนออกดอกนอกฤดูกาล  นอกจากนั้นชาวสวนลำไยยังมีการใช้สารโพแทสเซียมคลอเรต  ในการกระตุ้นและเร่งการออกดอกด้วย 

มาถึงตอนนี้เกษตรกรไม่ต้องราดสารเร่งให้ต้นมะม่วงหรือทุเรียนก็ออกดอกได้  โดยหันมาใช้  “ฮอร์โมนไข่”  เร่งการออกดอกแทน

สูตรฮอร์โมนไข่เร่งการออกดอกของพืชมีดังนี้ คือ
1.ไข่ไก่สดทั้งเปลือกหรือไข่เป็ดไข่นกกระทา หรือไข่หอยเชอรี่จำนวน 5 กิโลกรัม
2.กากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดง5กิโลกรัม
3.ลูกแป้งข้าวหมาก1ก้อน
4.นมเปรี้ยว 1 ขวด (กล่อง) หรือใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์ที่ผลิตจากเปลือกสับปะรด 200 ซีซี

การทำฮอร์โมนไข่ทำได้ง่ายๆ โดยนำไข่ไก่ทั้งฟองมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่น  ถ้าไม่มีเครื่องปั่นให้ตอกไข่ขาวไข่แดงออกจากเปลือกใส่ภาชนะ  แล้วใช้ไม้ตีไข่ขาวไข่แดงให้เข้ากัน  นำเปลือกไข่ใส่ครกตำให้ละเอียดจากนั้นตักใส่ลงไปในภาชนะที่มีไข่ขาวไข่แดงปน กันอยู่  เพื่อเพิ่มธาตุแคลเซียม(Ca)จากเปลือกไข่  แล้วนำกากน้ำตาลมาผสมนำผงแป้งข้าวหมากโปรยลงไป  และใช้นมเปรี้ยวหรือหัวเชื้อจุลินทรีย์  หรือกระเพาะหมู  ซึ่งจะมีจุลินทรีย์มหัศจรรย์ที่ชื่อว่า  Lactobacillus sp. ผสมใส่ลงไป  แล้วคนคลุกให้เข้ากันนำไปบรรจุในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด เช่น  ถังพลาสติกโดยให้มีช่องว่างอากาศประมาณ 10% ของภาชนะ  เพื่อให้จุลินทรีย์ที่ต้องการออกซิเจนเจริญเติบโตไปด้วย  ทิ้งไว้ในที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี  อย่าให้ถูกแสงแดดประมาณ 7 วัน  ก็สามารถนำไปใช้ได้ซึ่งมีต้นทุนการผลิตเพียงลิตรละ 25-30 บาทเท่านั้น

สำหรับการใช้ฮอร์โมนไข่เร่งการออกดอกของพืช  ให้ใช้ในอัตราส่วน 2-3 ช้อนกาแฟ(5-10 ซีซี.)/น้ำ 20 ลิตรฉีดพ่นในช่วงเช้าหรือช่วงเย็น 7-10 วัน/ครั้ง

กรณีที่ใช้ในไม้ผลไม่ว่าจะเป็นการผลิตในฤดูกาลหรือนอกฤดูกาล  เกษตรกรต้องบำรุงต้นพืชให้สมบูรณ์ที่สุดก่อนแล้วค่อยเร่งการออกดอกด้วย ฮอร์โมนไข่  โดยเริ่มฉีดพ่นตั้งแต่ติดใบอ่อนรุ่นที่ 3 ประมาณ 30-45 วัน  ไม้ผลจะติดดอก 50-80% ของทรงพุ่ม  ต้องหยุดฉีดพ่นฮอร์โมนไข่ทันที  ถ้าพ่นต่อไปจะทำให้ดอกร่วง  เนื่องจากฮอร์โมนไข่สูตรนี้มีความเข้มข้นและความเค็มสูง

หากต้องการให้ดอกออกนอกฤดู  ต้องให้มีช่วงฝนทิ้งช่วงหรือทิ้งช่วงการให้น้ำ 14-21 วัน/ครั้ง  แล้วฉีดพ่นด้วยฮอร์โมนไข่ 7-10 วัน/ครั้ง  ไม้ผลก็จะออกดอก  จากนั้นฉีดพ่นด้วยน้ำหมักชีวภาพสูตรฮอร์โมนผลไม้ต่อไปอีก7-10 วัน/ครั้ง  เพื่อบำรุงผลผลิตให้สมบูรณ์

ส่วนการใช้ใน ข้าว พืชไร่ พืชผัก และไม้ดอกไม้ประดับ  ควรฉีดพ่นตั้งแต่พืชตั้งตัวได้จนถึงออกดอกเกิน 50% จึงหยุดพ่น  และที่สำคัญไม่ควรใช้ฮอร์โมนไข่เร่งดอกในพืชผักกินใบ เช่น คะน้า ผักกาดขาว ผักกาดหอม  เพราะพืชผักเหล่านี้จะออกดอก  ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพต่ำและขายไม่ได้ราคา
                           ลองนำไปใช้ดูนะคับแล้วจะนำสูตรต้นไม้มาบอกกันอีกครับ++